Thursday, March 19, 2020

เรียงร้อยอดีตบนเส้นเวลา ณ พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน



 ลูกปัดจำลองขนาดใหญ่หลากรูปแบบหลายสีสัน

ภาคภูมิ น้อยวัฒน์...เรื่องและภาพ
ตีพิมพ์ครั้งแรกในอนุสาร อ.ส.ท. ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

               หลายคนอาจไม่เคยนึกว่าลูกปัดเม็ดเล็ก ๆ  ที่เราใช้เป็นเครื่องประดับกันนั้นจะสามารถใช้ศึกษาความเป็นมาของมนุษยชาติได้

            แต่ที่กลางเมืองกระบี่ รอยอดีตที่ปรากฏอยู่บนลูกปัดถูกนำมาไขข้อมูลที่เก็บซ่อนเอาไว้เป็นเรื่องเป็นราวย้อนหลังไปนับพันปีได้อย่างแจ่มชัดราวกับมีเครื่องย้อนกาลเวลากลับไปก็ไม่ปาน

 อาคารพิพิธภัณฑ์ลูกปัด

            พิพิธภัณฑ์ลูกปัดอันดามัน ตั้งอยู่ที่อาคาร A ภายในอาณาบริเวณของ “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน” ที่ประกอบด้วยอาคารสถาปัตยกรรมแบบท้องถิ่นประยุกต์ทั้งหมด ๕ หลังบนพื้นที่กว่า ๗ ไร่ สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๕๗ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่ม ๕ จังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน อันได้แก่จังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต ระนอง และตรัง เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และใช้เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานทางศิลปวัฒนธรรมของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยอยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองกระบี่  

ภายในพิพิธภัณฑ์เน้นนำเสนอเรื่องราวของลูกปัดโบราณ ในฐานะหลักฐานจากอดีตอันสะท้อนถึงเส้นทางการค้าทางทะเลสมัยโบราณในภาคใต้ของไทยสมัยโบราณเมื่อกว่าสองพันปีที่ตกทอดผ่านกาลเวลามาจนถึงยุคปัจจุบัน จัดนิทรรศการถาวรแบ่งเป็น ๗ ห้องตามจำนวนหัวข้อ ให้เดินชมแบบเป็นเส้นทางวงรอบ  ล้วนแต่ตื่นตาด้วยการตกแต่งประดับประดาอย่างน่าสนใจ

ประตูทางเข้าอุโมงค์แห่งเวลา ตกแต่งด้วยลูกปัดจำลองยักษ์สีทอง
เรื่องราวประวัติความเป็นมาของลูกปัดบนเส้นทางการค้าโลกทางทะเล

 ทางเดินเริ่มจากอุโมงค์แห่งเวลาทำด้วยลูกปัดสีทองขนาดใหญ่เท่าลูกฟุตบอล เข้าไปยังห้องแรกคือห้องประวัติความเป็นมาของลูกปัด นำเสนอลำดับพัฒนาการของลูกปัดจากอดีตที่เก่าแก่ที่สุดไล่เรียงมาตามลำดับ ซึ่งจากหลักฐานทางโบราณคดีสรุปได้ว่าวัสดุที่เก่าแก่ที่สุดที่ใช้ทำลูกปัดแรกเริ่มคือ ดิน ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ เช่น กระดูกสัตว์ เขาสัตว์ งาสัตว์ เขี้ยวและฟันสัตว์ เปลือกหอย รวมถึงปะการัง โดยเมื่อราวสี่หมื่นห้าพันปีก่อนมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้นำวัสดุเหล่านี้มาปั้น ขัด ฝน หรือตัดเป็นแท่งเล็ก ๆ  แล้วเจาะรูร้อยเพื่อใช้ทำเป็นเครื่องประดับ ก่อนจะหันมาใช้วัสดุประเภทหินสี หินมีค่า เช่น อาเกต คาร์เนเลียน ฯลฯ

 ต่อมาในยุคสำริด ยุคเหล็ก จึงพัฒนากรรมวิธีขึ้นอีก ด้วยการหลอมโลหะมาทำเป็นลูกปัด โดยเฉพาะลูกปัดแก้วที่มีเทคนิคในการทำที่สลับซับซ้อนและสวยงามสันนิษฐานว่าผลิตขึ้นได้เมื่อสองพันปีที่แล้ว แหล่งผลิตลูกปัดแก้วที่สำคัญของโลกพบว่ามีอยู่สามแหล่ง คือ อียิปต์  โรมัน และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง  ตลอดเวลาอันยาวนานลูกปัดยังคงได้รับการพัฒนาทั้งวัสดุและกรรมวิธีในการผลิตมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน

 ห้องประวัติศาสตร์ลูกปัดภาคใต้

 แผนที่เส้นทางการค้าทางทะเลโบราณของโลกขนาดใหญ่นำทางมายังห้องประวัติลูกปัดในประเทศไทย นำเสนอลูกปัดโบราณที่ขุดพบมากมายในประเทศไทย โดยลูกปัดเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยขุดค้นพบที่แหล่งโบราณคดีบ้านเก่า ตำบลจระเข้เผือก อำเภอเมืองฯ จังหวัดกาญจนบุรี ทำขึ้นในยุคหินใหม่ อายุประมาณ ๔,๐๐๐ ปี นอกจากนี้ยังพบลูกปัดจากการทำการค้าขายทางทะเลกับอาณาจักรโรมัน อินเดีย รวมทั้งจีน

 “บันทึกประวัติศาสตร์ลูกปัดในภาคใต้” คือหัวข้อที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากค้นพบลูกปัดจากเมืองท่าโบราณหลายต่อหลายแห่งทางภาคใต้ทั้งสองฟากฝั่งทะเล ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งทะเลอันดามันที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ที่เกาะคอเขา (เขาหลัก) จังหวัดพังงา ที่สทิงพระ จังหวัดสงขลา หรือทางฝั่งทะเลอ่าวไทยที่เขาสามแก้ว จังหวัดชุมพร และที่อำเภอท่าชนะ ที่แหลมโพธิ์ อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 รูปแบบและวัสดุที่ใช้ทำลูกปัด

ลูกปัดที่พบมีความเก่าแก่และหลากหลาย ในด้านของวัสดุที่ใช้ เช่น หินคาร์เนเลี่ยน อาเกตหลากสี ควอทซ์ แลปิส อาร์เมทิส แก้ว โลหะ รวมไปถึงทองคำ ซึ่งในห้องนี้ได้จัดแสดงวัสดุต่าง ๆ เหล่านี้ไว้ในตู้ให้ชมในมุมหนึ่ง พร้อมด้วยขั้นตอนและกรรมวิธีในการทำลูกปัดโดยละเอียด

  ส่วนในด้านของรูปแบบยังพบลูกปัดที่มีรูปแบบเฉพาะหาได้ยากเช่น “ลูกปัดลายแทงสวรรค์” หรือกุญแจเทพ ทำเป็นสัญลักษณ์รูปค้างคาวที่คนจีนเรียกว่า “ฮก” ถือเป็นสัตว์วิเศษเพราะทั้งบินได้และเดินได้ มีอายุยืน “ลูกปัดอักษรปัลลวะ” ในภาษาสันสกฤตที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง ๑ เซนติเมตร “ลูกปัดมังกรหยกขาว” เครื่องรางของจักรพรรดิ์จีน “ลูกปัดสุริยเทพ” ลูกปัดแก้วที่ใช้สีขาว สีดำ และสีดำ เขียนเป็นรูปหน้าคนคล้ายอินเดียนแดง นอกจากนี้ยังมีลูกปัดแก้วและหินที่มีลวดลายเป็นแบบเฉพาะ ลูกปัดแก้วแบบต่าง ๆ เช่น ลูกปัดตา ลูกปัดแก้วหลายสี ลูกปัดมีขั้ว และลูกปัดแบบเกลียว   

ความหลากหลายของรูปแบบและสีสันอันงดงามนี้ทางพิพิธภัณฑ์ได้จำลองแบบขยายส่วนขึ้นมาเป็นลูกปัดนานาชาติ ขนาดน้อยใหญ่ ผสมผสานหลากสีสันและรูปแบบ ติดเรียงรายเป็นแถวไว้บนผนังให้ผู้เยี่ยมชมได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันด้วย

 ห้องแฟชั่นลูกปัด

เข้าสู่ห้องแฟชั่นลูกปัด เรียงรายด้วยเสื้อผ้าหลากสไตล์ และหุ่นแสดงแบบเสื้อในเครื่องแต่งกายต่าง ๆ อยู่ในตู้ติดผนัง เป็นการนำเสนอลูกปัดในฐานะเครื่องประดับที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ ซึ่งในอดีตมนุษย์ได้นำลูกปัดมาร้อยเรียงต่อกันเพื่อประดับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ตกแต่งศีรษะ เส้นผม จมูก ต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ เข็มขัดหรือสร้อยรอบเอว สร้อยข้อเท้า ตามความนิยมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่น  ทั้งยังหมายถึงการบ่งบอกฐานะทางสังคมของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย และแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานหลายพันปี ลูกปัดก็ยังคงได้รับความนิยมในการนำมาเป็นเครื่องประดับอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้

 จอวิดีทัศน์ขนาดใหญ่ริมทางเดิน
 ห้องลูกปัดล้ำค่า จัดแสดงลูกปัดที่ขุดพบจากแหล่งต่าง ๆ ในตู้อย่างสวยงาม

ทางเดินผ่านห้องมืดที่มีจอฉายภาพยนตร์ขนาดใหญ่หมุนเวียนด้วยวิดิทัศน์แนะนำแหล่งท่องเที่ยวและเรื่องราวต่าง ๆ ของจังหวัดกระบี่ แล้วจึงเข้าสู่ห้องลูกปัดล้ำค่า ภายในออกแบบเป็นโถงใหญ่ที่มีประติมากรรมรูปศีรษะบุคลที่มีรูปมือแสดงท่ามุทราจีบนิ้วชี้กับนิ้วกลางอันมีความหมายถึงความร่ำรวยหรืออุดมสมบูรณ์อยู่กึ่งกลางห้อง ประดับด้วยไฟสีสันสวยงาม จัดแสดงลูกปัดโบราณอันทรงคุณค่าที่ขุดค้นพบจากแหล่งต่าง ๆ ไว้ในตู้กระจกที่เรียงรายอยู่โดยรอบ

 ลูกปัดนำมาออกแบบเป็นรูปร่างต่าง ๆ
 ลูกปัดกับความเชื่อ

ต่อเนื่องกันเป็นห้องลูกปัดและความเชื่อลูกปัด นำเสนอลูกปัดในฐานะสิ่งที่ผู้คนเคารพนับถือ ลูกปัดที่ใช้เป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อทางศาสนา รวมทั้งลูกปัดที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ   รูปทรงและลวดลายของลูกปัดที่มีความหมายเหมาะสมกับดวงชะตาราศีของแต่ละคน  มุมหนึ่งยังมีระบบมัลติมีเดียพยากรณ์ดวงชะตาตามราศีผ่านลูกปัดแก้ววิเศษให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้ลองทดสอบความแม่นยำ

 โมบายขนาดใหญ่

โมบายคริสตัลขนาดใหญ่คือสัญลักษณ์ของห้องลูกปัดในอนาคต ประติมากรรมลูกปัดผลึกแก้วนี้แขวนเด่นเป็นสง่าจากเพดานลงสู่เบื้องล่างที่เป็นภาพดวงดาวต่าง ๆ ในรูปแบบลักษณะของระบบสุริยะจักรวาล โดยบนผนังยังทำเป็นกล่องอครีลิคบรรจุลูกปัดหลากสีสันรายล้อมอยู่มากกว่า ๑,๕๐๐ เม็ดเปรียบเสมือนดวงดาว สื่อถึงโลกในอนาคตที่มนุษยชาติมุ่งหน้าออกสู่จักรวาลอันไพศาล ก่อนจะทางเดินจะวกไปยังห้องThank you zone ที่ตกแต่งด้วยวงโลหะขัดเงาวาววับสะท้อนแสงไฟหลากสี อันเป็นจุดถ่ายภาพที่ระลึกสุดท้ายก่อนถึงทางออก

 ห่วงโลหะสะท้อนแสงวิบวับ
 จุดถ่ายภาพที่ระลึกก่อนถึงทางออก

หากยังติดใจเรี่องราวของลูกปัด ออกจากนิทรรศการเดินตรงไปจนสุดทาง ยังมีอาคารสาธิตการผลิตลูกปัดอันดามัน นำเสนอวิธีการทำลูกปัดตามแบบโบราณ โดยช่างฝีมือของเทศบาลเมืองกระบี่ ให้ผู้สนใจได้ร่วมศึกษา เรียนรู้กระบวนการ  ตลอดจนยังสามารถร่วมทดลองทำเอง ให้รู้ว่ากว่าจะเป็นลูกปัดแต่ละเม็ดต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆ มากมายขนาดไหนอีกด้วย



คู่มือนักเดินทาง
ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน ตั้งอยู่ที่ถนนมหาราช ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ รหัสไปรษณีย์ ๘๑๐๐๐ เปิดทำการเวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ นาฬิกา วันจันทร์-เสาร์ (หยุดบริการทุกวันอาทิตย์ เทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์) ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ ๐๘ ๓๔๒๖ ๗๓๙๔ หรือ ๐ ๗๕๖๒ ๑๓๕๙  โทรสาร ๐ ๗๕๖๒ ๑๓๕๙ เว็บไซต์ : http://www.museumkrabi.com/




No comments:

Post a Comment